วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ฎีกาที่ 3861/2552


ฎีกาที่ 3861/2552

ผู้ร้องซื้อที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าจากนายคำ นางเบา ผู้เป็นเจ้าของเมื่อนายคำ นางเบาสละเจตนาครอบครองที่ดินพิพาทและโอนการครอบครองโดยส่งมอบที่ดินพิพาทแก่ผู้ร้อง และผู้ร้องเข้าครอบครองโดยเจตนายึดถือ เพื่อตนแล้ว การครอบครองที่ดินพิพาทของนายคำ นางเบาจึงสิ้นสุดลง ผู้ร้องย่อมได้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367,1377 และมาตรา 1378 ที่ดินพิพาทจึงเป็นของผู้ร้อง ที่โจทก์ฎีกาต่อมาว่า โจทก์เป็นบุคคลภายนอกผู้กระทำการโดยสุจริต เสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนรับจำนองโดยถูกต้องตามกฎหมายย่อมได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1299 วรรคสอง นั้น เห็นว่าเมื่อนายคำ นางเบาไม่ใช่เจ้าของที่ดินพิพาทแล้ว ดังนี้ นางทองอินทร์ผู้เป็นทายาทของนายคำกับนางเบาจึงไม่มีสิทธินำที่ดินพิพาทไปขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นของตน และไม่มีสิทธินำที่ดินพิพาทไปจำนองแก่โจทก์ไม่ เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 705 การจำนองจึงไม่มีผล โดยไม่ต้องคำนึงว่าโจทก์ซคางเป็นผู้รับจำนองสุจริตหรือไม่ เพราะสิทธิของผู้ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ที่ห้ามมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วตาม ป.พ.พ. มาตรา 1299 วรรคสอง นั้น ต้องเป็นการได้สิทธิในที่ดินที่ได้จดทะเบียนแล้ว และสิทธิที่ได้นั้นต้องเกิดจากเอกสารสิทธิของที่ดินที่ออกโดยชอบ เมื่อการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในส่วนที่ดินพิพาทไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์จะอ้างสิทธิที่จะเกิดจากหนังสือรับรองการทำประโยชน์ส่วนที่ออกโดยไม่ชอบดังกล่าวหาได้ไม่ กรณีเช่นนี้ไม่อยู่ในบังคับของ ป.พ.พ. มาตรา 1299 วรรคสอง

ไม่มีความคิดเห็น:

คำพิพากษาฎีกาที่ 11/2561 บวกโทษ

 คำพิพากษาฎีกาที่ 11/2561       ความปรากฎต่อศาลตามคำฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลยว่า ภายในเวลาที่ศาลรอการลงโทษให้จำเลย จำเลยได้กระทำความผิ...