ผู้ที่ซื้อที่ดินโดยรู้อยู่แล้วว่าที่ดินเป็นที่สาธารณะประโยชน์
ผลก็คือ สัญญาซื้อขายที่ดินสาธารณะประโยชน์ตกเป็นโมฆะ และไม่มีสิทธิเรียกเงินที่จ่ายค่าที่ดินคืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7464/2555
ที่ดินพิพาทเป็นที่สาธารณะประโยชน์จึงเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินซึ่ง ป.พ.พ. มาตรา 1305 บัญญัติว่าทรัพย์สินซึ่งเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินนั้นจะโอนแก่กันมิได้ เว้นแต่อาศัยอำนาจแห่งบทกฎหมายเฉพาะหรือพระราชกฤษฎีกา การที่โจทก์จำเลยทำสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทแก่กัน จึงเป็นการทำนิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยย่อมตกเป็นโมฆะตาม ปพพ.มาตรา 150 และมีผลเป็นการเสียเปล่าเท่ากับโจทก์จำเลยมิได้ทำสัญญาซื้อขายกันและต้องคืนทรัพย์สินอันเกิดจากโมฆะกรรมแก่กัน โดยให้นำบทบัญญัติว่าด้วยลาภมิควรได้มาใช้บังคับตาม ปพพ. มาตรา172 แต่การที่โจทก์ชำระราคาที่ดินพิพาทแก่จำเลยตามสัญญาโดยรู้อยู่แล้วว่าที่ดินพิพาทเป็นที่สาธารณะประโยชน์ ถือว่าเป็นการกระทำตามอำเภอใจเหมือนหนึ่งว่าเพื่อชำระหนี้โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มีความผูกพันที่จะต้องชำระ ทั้งยังเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายตาม ปพพ. มาตรา 407 และมาตรา 411 โจทก์จึงไม่มีสิทธิจะได้รับคืนราคาที่ดินที่ชำระแก่จำเลยดังกล่าว
-จากฎีกานี้ ถ้าผู้ซื้อไม่รู้มาก่อนว่าที่ดินเป็นสาธารณะประโยชน์ เรียกเงินที่ชำระไปแล้วคืนได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น